แนวคิดด้านถิ่นกำเนิดของคนไทย
การศึกษาเรื่องถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย ได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 100 ปีเศษมาแล้ว โดยนักวิชาการชาวตะวันตก ต่อมาได้มีนักวิชาการสาขาต่างๆ ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศได้ศึกษาค้นคว้าต่อมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน การศึกษาค้นคว้าได้อาศัยหลักฐานต่างๆ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ เครื่องมือเครื่องใช้ เอกสารโบราณจีน หลักฐานทางภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ผลจากการค้นคว้าปรากฏว่านักวิชาการและผู้สนใจเรื่องถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยต่างเสนอแนวคิดไว้หลายอย่าง แต่ยังไม่มีแนวคิดใดเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน ในระยะแรกๆ นักวิชาการส่วนใหญ่เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในดินแดนประเทศจีน ต่อมาได้อพยพย้ายถิ่นกระจายออกไป และได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย ดังนี้
แนวคิดที่ 1 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนแถบเทือกเขาอัลไต

ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ ดร.วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ (Dr.william Clifton Dodd) มิชชันนารีชาวอเมริกันได้เข้ามายังประเทศไทย และ ขุนวิจิตรมาตรา
ซึ่งแนวคิดนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับของนักประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน เนื่องจากมีอุปสรรคในการเดินทางไปตั้งถิ่นฐานของคนไทย และไม่น่าจะอยู่ไกลถึงเทือกเขาอัลไต ที่มีอากาศหนาวเย็นมาก นอกจากนั้นการเดินทางลงมาทางใต้ต้องผ่านทะเลทรายโกบี อันกว้างใหญ่ไพศาล
แนวคิดที่ 2 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนบริเวณมณฑลเสฉวน

แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในบริเวณตอนกลางของจีน
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธเมศวร์
ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ แตร์รีออง เด ลา คูเปอรี (Terrien de la Couperie) และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม-พระยา ดำรงราชานุ-ภาพ
ซึ่งแนวคิดนี้ระยะต่อมามีนักวิชาการได้ศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง เกี่ยวกับวัฒนธรรมทางภาษาลักษณะเผ่าพันธุ์ จากหลักฐานประเภทจดหมายเหตุจีน กล่าวถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคนไทย ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันมากนัก ดังนั้น แนวคิดนี้จึงไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการ
แนวคิดที่ 3 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนบริเวณมณฑลยูนนาน

ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ อาร์ชิบัลด์ รอสส์ คอลูน (Archibald Ross Colquhoun) นักสำรวจชาวอังกฤษ ซึ่งได้พบกลุ่มชนชาติไทยอาศัยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน มีภาษาพูดและความเป็นอยู่คล้ายคลึงกันในบริเวณที่ได้เดินทางสำรวจ
และ อี.เอช.ปาร์เกอร์ : E.H.Parker เป็นชาวอังกฤษเคยเป็นกงสุลอังกฤษประจำเกาะไหหล่ำ ได้ลงความเห็นว่าในพุทธศตวรรษที่ 13 ชนชาติไทยได้ตั้งอาณาจักรน่าเจ้าที่มณฑลยูนนาน ต่อมาถูกจีนรุกรานถอยร่นลงมาทางตอนใต้ของจีน และหลายครัวเรือนได้อพยพมาสู่แผ่นดินสุวรรณภูมิ
ซึ่งแนวคิดนี้ มีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายท่านที่สนับสนุน
แนวคิดที่ 4 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณดินแดนประเทศไทย มาราว 4,000 – 3,000 ปีมาแล้ว

แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทย
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธเมศวร์
ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ พอล เบเนดิกต์ (Paul Benedict) นักวิชาการชาวสหรัฐอเมริกา, ศาสตราจารย์นายแพทย์สุดแสงวิเชียร ผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคศาสตร์ และ ศาตราจารย์ชิน อยู่ดี ผู้เชี่ยวชาญ ทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
โดยเห็นว่าพื้นที่ซึ่งเป็นดินแดนประเทศไทยในปัจจุบันมีร่องรอยของผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง ยุคหินใหม่ ยุคโลหะและเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ เนื่องจากแต่ละยุคได้แสดงความสืบเนื่องทางวัฒนธรรมของคนไทยจนถึงปัจจุบัน เช่น ประเพณีการฝังศพ เครื่องใช้เกี่ยวกับการเกษตร
ซึ่งแนวคิดนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากนักวิชาการในปัจจุบันมากนัก จึงต้องอาศัยการค้นคว้าด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
แนวคิดที่ 5 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีนหรือคาบสมุทรมลายู และหมู่เกาะต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย

แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในคาบสมุทรมลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซีย
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธแมศวร์
ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ นักวิชาการทางการแพทย์โดย นายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ, นายแพทย์ประเวศ วะสี คณะนักวิจัย ด้านพันธุศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จากผลงานการวิจัยทางพันธุศาสตร์ของนายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ เกี่ยวกับหมู่เลือด ลักษณะและความถี่ของยีน พบว่าหมู่เลือดของ คนไทยมีความคล้ายคลึงกับคนชาวเกาะชวา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้มากกว่าของคนจีนที่อยู่ทางตอนเหนือรวมทั้ง ลักษณะความถี่ของยีนระหว่างคนไทยกับคนจีน ก็มีความแตกต่างกันและจากผลงานการวิจัยเรื่องฮีโมโกลบิน อี ของนายแพทย์ประเวศ วะสี พบว่า ฮีโมโกลบิน อี พบมากในผู้คนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือไทย เขมร มอญ ปรากฏว่าฮีโมโกลบินอี แทบจะไม่มีในหมู่คนจีน
แนวคิดนี้ปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และยังไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการที่ค้นคว้าเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย
แนวคิดที่ 6 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน

บริเวณทางตอนใต้ของจีนในทีนี้ หมายถึง บริเวณซี่งปัจจุบันเป็นมณฑลยูนนานของจีน ตอนเหนือของเวียตนาม รัฐฉานของพม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย แนวความคิดนี้เสนอครั้งแรกโดยนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ อาร์ซิบัล รอสส์ โคลฮูน (Archibal Ross Colquhoun) เมื่อ พ.ศ. 2428
โคลฮูนเสนอแนวความคิดนี้ หลังจากเขาเดินทางสำรวจโดยออกเดินทางจากวางตุ้ง ประเทศจีนไปทางตะวันตกถึงเมืองมันฑะเลย์ในพม่า ผลการสำรวจของเขาปรากฎอยู่ในหนังสือชื่อ ไครเซ (Chryse) ตีพิมพ์ที่อังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2428 ได้ข้อสรุปว่ามีคนเชื้อชาติไทยอาศัยอยู่ตามบริเวณที่เขาเดินทางผ่านไปโดยตลอด
นักวิชาการตะวันตกที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกับแนวความคิดนี้ ที่สำคัญคือ อี.เอช. ปาร์คเกอร์ (E.H. Parker) และ โวลแฟรม อีเบอร์ฮาร์ด (Wolfram Eberhard) ปาร์คเกอร์เคยเป็นกงสุลอังกฤษประจำเกาะไหหลำ และได้เขียนบทความเรื่อง น่านเจ้า พิมพ์เผยแพร่เมื่อ พ.ศ. 2437 สรุปใจความสำคัญว่า น่านเจ้าซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรที่ยูนานนั้นเคยเป็นของไทย
อีเบอร์ฮาร์ด ศาสตราจารย์ชาวเยอรมันได้ศึกษาเรื่องนี้เมื่อ พ.ศ. 2491 และได้แสดงแนวความคิดไว้ในหนังสือชื่อ A History of China ยืนยันว่าคนไทยมีถิ่นกำเนิดใกล้ปากแม่น้ำแยงซี ในมณฑลเสฉวน ต่อมาได้อพยพถอยร่นลงมาจนถึงมณฑลยูนนาน
นักวิชาการไทยที่มีผลงานการค้นคว้าที่สอดคล้องกับแนวความคิดนี้คือ พระยาประชากิจกรจักร
(แช่ม บุนนาค) ผู้แต่งหนังสือพงศาวดารโยนกซึ่งเชื่อว่าถิ่นกำเนิดาของชนชาติไทยอยู่กระจัดกระจายในบริเวณตอนใต้ของจีนรวมไปถึงรัฐอัสสัมของอินเดีย ท่านได้เล่าถึงวิธีการศึกษาค้นคว้าของท่านไว้ในคำนำหนังสือพงศาวดารโยนกว่า ข้าพเจ้าได้สอบสวนกับพงศาวดารพม่า รามัญ ไทยใหญ่ ล้านช้าง และพงศาวดารจีน พงศาวดารเหนือ พระราชพงศาวดารสยาม และพงศาวดารเขมรกับหนังสือต่างๆในภาษาอังกฤษด้วย หนังสือเรื่องนี้พิมพ์เป็นเล่มครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2450 เนื้อหาแต่ละตอนล้วนเกี่ยวกับเรื่องราวการอพยพของคนไทยจากตอนใต้ของประเทศจีนทั้งสิ้น
นอกจากนี้ศาสตราจารย์ ขจร สุขพานิช (พ.ศ. 2456 – 2521) ซี่งเคยเป็นกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ก็มีความเชื่อว่าถิ่นกำเนิดของคนไทยอยู่ทางตอนล่างของจีน หลังจากที่ได้ค้นคว้าหลักฐานทางฝ่ายไทยตรวจสอบกับความเห็นของอีเบอร์ฮาร์ด และหมอดอดด์ แล้วลงความเห็นว่า คนไทยมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ตอนใต้ของจีนในเขตมณฑลกวางตุ้ง กวางสี ต่อมาได้อพยพมาทางตะวันตก ตั้งแต่มณฑลเสฉวนลงล่างเรื่อยมาจนเข้าเขตสิบสองจุไทยลงมาในเขตประเทศลาว
แนวความคิดนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน นักวิชาการชาวตะวันตกบางท่านได้ขยายแนวความคิดนี้ออกไป ทำให้มีสมมุติฐานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อย่างเช่นมีข้อเสนอว่า ถิ่นกำเนิดของคนไทยน่าจะอยู่ มณฑลกวางสีและมณฑลกวางตุ้ง เพราะอยู่ในเขตร้อนชื้น บ้างก็ว่าน่าจะอยู่ห่างไกลจากน่านเจ้าไปทางตะวันออก คือ แนวเขตแดนระหว่างมณฑลกวางสีของจีนกับบริเวณที่ต่อกับเขตของเวียดนาม เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น